วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สรุปวิจัยเกี่ยวกับวิทยาสาสตร์สำหรับเด้กปฐมวัย
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ
1) ศึกษาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์  ที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยเน้นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
2) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ประสบการณ์โดยเน้นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ระหว่างก่อนกับหลังการจัดประสบการณ์

การวิจัย เรื่อง ผลการจัดประสบการณ์โดยเน้นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาล ปีที่ 2
1. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่
 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยเน้น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ภาพรวมอยู่ในระดับดี
( X = 2.51, S.D. = 0.49) ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ใช้กระบวนการจัดประสบการณ์โดยเน้นเด็กเป็นส าคัญ โดยให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง มีการใช้สื่อการเรียนการสอนที่หลากหลาย มีความสัมพันธ์และสอดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหาที่สอน เหมาะสม กับวัย ความสนใจ และความต้องของเด็ก ประกอบกับกิจกรรมที่หลากหลายรูปแบบที่มุ่งเน้นทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต การฟัง การสาธิต การทดลองลงมือกระท าด้วยตนเอง โดยครูเป็นผู้เสนอแนะวิธีการค้นหา ค าตอบ โดยใช้วิธีการต่างๆ พยายามชี้แนะแนวทางค้นค าตอบ เน้นกระบวนการที่เด็กเป็นผู้คิด ลงมือปฏิบัติ ศึกษา ค้นคว้าอย่างมีระบบด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย โดยค านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ท าให้การเรียนรู้เกิดขึ้น ระหว่างที่เด็กมีส่วนร่วมโดยตรงในการท ากิจกรรม ท าให้มีความสามารถในการสืบเสาะหาความรู้ และแก้ปัญหาด้วย วิธีการทางวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับหลักการของ วราภรณ์ รักวิจัย ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ กิจกรรมที่จะท าให้เด็กเกิดการเรียนรู้สูงสุดนั้น จะต้องเป็นกิจกรรมที่เด็กสนใจลงมือค้นคว้ากระท าด้วยตนเอง โดยมี ครูเป็นผู้ชี้แนะและสนับสนุนคอยช่อยเหลือ เด็กท ากิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย สอดคล้องกับพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา เป็นประสบการณ์ตรงจากการได้เล่นลงมือปฏิบัติจริงและมีการกระท าร่วมกับบุคคลอื่น โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อน และยังสอดคล้องกับผลการวิจัยของ ลานดี้, และกลาสสัน (Landry, & Glasson, 2008, p. 443) ที่ศึกษาหลักสูตรการจัดกิจกรรมการสอนวิทยาศาสตร์ส าหรับเด็กปฐมวัย โดยท าการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ส าหรับเด็กและบทบาทของครูในการส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์พบว่าครูเป็นผู้ที่มีบทบาท มากในการช่วยส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ส าหรับเด็กปฐมวัย และการให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้แบบ ร่วมมือกันท าให้เด็กได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งท าให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น และมีทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในระดับดี
 2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังการจัดประสบการณ์โดยเน้น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01ซึ่งเป็นไป ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้อาจเป็นเพราะการจัดประสบการณ์ที่มีบรรยากาศในการเรียนรู้ที่ดี มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ครูกับเด็ก และเน้นการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ รู้จักคิด และรู้จักค้นคว้าด้วยตนเอง โดย ครูใช้ค าถามเพื่อกระตุ้นให้เด็กรู้จักคิดและแก้ปัญหา เป็นการส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการจัด กิจกรรมจะเชื ่อมโยงพื้นฐานจากความรู้เดิม และใช้เทคนิคการจัดประสบการณ์โดยการสาธิต การทดลอง การศึกษานอกห้องเรียน เพื่อให้ได้ประสบการณ์ตรง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ ประสาท เนืองเฉลิม  ที่ระบุไว้ว่าการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต้องให้เด็กเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติการลงมือ กระท าจริงด้วยตนเองการได้รับประสบการณ์ตรงจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5 จัดกิจกรรมตามสภาพจริงสอดคล้องกับ สภาพ แวดล้อมที่เด็กอาศัยอยู่เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรียนรู้สิ่งใหม่นั้นมีฐานมาจากประสบการณ์ เดิมของเด็ก มีการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับเด็กซึ่งครูต้องเป็นผู้ให้ค าแนะน าก าลังใจเอื้ออ านวยช่วยเหลือให้เด็ก เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองและสะท้อนความคิดระหว่างที่จัดกิจกรรมเรียนรู้เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความคิดไตร่ตรอง ถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการกระท าที ่ปฏิบัติลงไป และสอดคล้องกับผลการวิจัยของ ศิริทัย ธโนปจัย ซึ่งได้ท าการวิจัยเรื่อง การพัฒนากิจกรรมส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ส าหรับเด็กปฐมวัย ผลการวิจัยพบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มีทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์สูงกว่าเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบปกติโดยมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 และนอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกการเรียนครั้งที่ 15  อาจารย์ไดสั่งทำงาน และแจกใบความรู้ ให้ทำงาน